พี่สาวเสี่ยชูวงษ์ ยื่นราชทัณฑ์ ขอบังคับโทษประหารชีวิต “บรรยิน” หวั่นครอบครัวไม่ปลอดภัย หากได้รับการปล่อยตัวออกมา
วันนี้ (1 ส.ค.67) ที่กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง หรือเสี่ยจืด นำเอกสารมายื่นท้วงถามกับทางกรมราชทัณฑ์ ถึงการบังคับโทษประหารชีวิต นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการพาณิชย์ โดยมีนายสมภพ สังคุตแก้ว รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้ออกมารับหนังสือ
นายสมภพ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับเอกสารคำพิพากษาคดีของนายบรรยินแล้ว ซึ่งตามขั้นตอนกรมราชทัณฑ์ จะให้ผู้ต้องขังได้ยื่นถวายฎีกาภายใน 60 วัน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนการปฏิบัติตามสิทธิ์ของผู้ต้องขัง และกรมราชทัณฑ์ไม่มีสิทธิ์คัดค้าน ส่วนคำถวายฎีกาผลจะออกมาเป็นอย่างไรกรมราชทัณฑ์ก็ต้องปฎิบัติตาม ทางกรมราชทัณฑ์เป็นฝ่ายควบคุมตัว ไม่มีอำนาจในการตัดสิน และต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา
ด้าน นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ตนจะมายื่นเอกสารให้รัฐมนตรี เรื่องนักโทษที่ศาลตัดสินประหารชีวิตทั้ง 3 ศาลแล้ว ซึ่งศาลมีความเห็นลงโทษไว้ขั้นสูงสุด ในคดีที่ฆาตรกรรมนายชูวงษ์ เพื่อปิดบังซ่อนเร้นในการโกงหุ้น อีกคดีคือคดีอุ้มฆ่านายวีรชัย พี่ชายของผู้พิพากษาที่ทำคดีตัดสินคดีโกงหุ้น ซึ่งนักโทษเด็ดขาดทั้ง 2 คดีนี้ และยังมีคดีที่รอตัดสินแล้วอีก 5 คดี เป็นนักโทษที่ทำผิดซ้ำซาก และก่อเหตุร้ายแรง และระหว่างที่อยู่เรือนจำก็ยังมีพฤติการณ์พยายามหลบหนีออกจากเรือนจำ ตนจึงอยากทำหนังสือชี้แจงให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์รู้ว่าควรจะบังคับโทษนักโทษรายนี้ ตามคำพิพากษาของศาล
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีนักโทษประหารถูกประหารสักกี่คน ล่าสุดคือปี 2561 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครถูกประหารจริง ไม่ว่าจะตัดสินมากี่คดี ซึ่งทุกคนที่เป็นนักโทษประหารติดคุกไม่เกิน 10 ปีก็จะได้ออกมาแล้ว ตนกังวลว่านักโทษคนนี้ก่อคดีร้ายแรง และอุกอาจ ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่ทำงานด้วยความยากลำบาก และปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างดีแล้ว จึงอยากให้กรมราชทัณฑ์ได้ยึดถือ คำพิพากษาของศาลฎีกา ประหารนักโทษตามคำพิพากษา ส่วนขั้นตอนที่นักโทษจะขอยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ตนไม่อาจก้าวล่วง แต่มองว่า ต้นทางคือ กรมราชทัณฑ์ เห็นสมควรที่จะยื่นให้อภัยโทษนักโทษที่มีพฤติกรรมซ้ำซากหรือไม่
ครอบครัวต่อสู้คดีมาตลอด 9 ปี มีความยากลำบากมาก ทั้งถูกข่มขู่ ถูกคุกคาม จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องระวัง และถ้านักโทษถูกปล่อยตัวออกมา จะเกิดอะไรขึ้นกับตนและครอบครัว ตนคงต้องกลับไปใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทั้งที่ตนเป็นผู้เสียหายน้องชายถูกฆ่า สุดท้ายเราก็ต้องมานั่งระวังตัว เราได้ความเป็นธรรมหรือยัง ตอนนี้อยากให้ทางกรมราชทัณฑ์ทำตามคำพิพากษาของศาลฎีกามากกว่า ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย