เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีเหตุการณ์ดินถล่มบนเทือกเขานาคเกิด ไหลลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน จนนำมาสู่การตรวจสอบหาสาเหตุของดินไหล ว่ามาจากการก่อสร้างพระใหญ่บนภูเขาหรือไม่
วานนี้ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณบนยอดเขานาคเกิด เป็นที่ก่อสร้างพระใหญ่ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ภูเก็ต เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ดูแลรักษาป่าในพื้นที่ จำนวน 15 ไร่ และเป็นเหตุทำให้เกิดดินไหลหรือไม่
นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ป่าไม้จังหวัดภูเก็ต ได้เข้าตรวจสอบบริเวณบนเขานาคเกิด หรือเขาพระใหญ่ พร้อมกับตรวจสอบที่ดินที่สำนักพุทธ เป็นผู้ขอดำเนินการขอใช้สถานที่ดูแลป่า จำนวน 15 ไร่ พบว่ามีส่วนเกินอยู่ประมาณ 5 ไร่ จะให้ทางป่าไม้จังหวัดภูเก็ต แจ้งความดำเนินคดีกับคนที่บุกรุก
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดภูเก็ต สอบถามเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต ในเบื้องต้นทราบข้อมูลว่า ดำเนินการโดยมูลนิธิแห่งหนึ่ง และมีประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้างพระใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ดังนั้นผู้ตรวจยึดมีความเห็นร่วมกันว่าเป็นการกระทำผิด แจ้งความดำเนินคดี ข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าไม้
ขณะที่ สำนักพุทธที่เป็นผู้ขอใช้พื้นที่บนเขานาคเกิด จำนวน 15 ไร่ ก็ต้องแจ้งรายละเอียดถึงโครงสร้างด้านวิศวกรรม ว่ามีรายละเอียดเป็นอย่างไร โครงสร้างแข็งแรงแค่ไหน ส่วนพื้นดินด้านล่างเป็นลานจอดรถ ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดินมาตรวจสอบดูแลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะแยกกันเป็น 2 ส่วน
จ่อรื้อ "พระใหญ่" แลนด์มาร์กรุกเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต
ส่วนประเด็นเรื่องการสั่งรื้อถอนพระใหญ่ ด้าน ผอ.สำนักจัดการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 บอกว่า ในอนาคตจะมีคำสั่งรื้อถอนพระใหญ่ และอาคารลานจอดรถที่อยู่บนเขานาคเกิดทั้งหมดหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องหาข้อสรุป และเสนอตามขั้นตอนเหมือนกับคดีการบุกรุกรีสอร์ตบนป่าต้นน้ำ
