ระทึก ! กู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวช่วยชาวบ้าน

เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุยางิ ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน กระทั่งช่วงเช้าวานนี้ น้ำจากแม่น้ำสาย (แม่น้ำกั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย) หลากท่วมหลายพื้นที่ ตำบลเวียงพางคำ และ ตำบลแม่สาย อำแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีชาวบ้านหลายคนติดอยู่ในบ้านออกจากบ้านไม่ได้ อาสากู้ภัยต้องเร่งเข้าช่วยเหลือด่วน

ระทึก ! กู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวช่วยชาวบ้าน จ.เชียงราย
คลิปเหตุการณ์ขณะทีมสมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมติดอยู่ภายในบ้าน จำนวน 6 คน พื้นที่เทศบาลตำบลแม่สาย

การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวมาก เจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกไปผูกกับต้นไม้ แล้วทยอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทีละคน ขณะช่วยเหลือมีฝนตกอย่าต่อเนื่อง และระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา ในที่สุดสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในบ้านได้สำเร็จ เหตุเกิดเวลา 15.40 เมื่อวานนี้

ส่วนที่บริเวณชุมชนไม้ลุงขน ตำบลแม่สาย ชายคนหนึ่งติดอยู่บนหลังคาร้านเขียงหมู ในตลาดไม้ลุงขน ตั้งแต่ 12.00 น. เมื่อวานนี้ กระทั่งเวลา 21.00 น. ชายคนนั้นยังนั่งอยู่ที่เดิมบนหลังคา เฝ้ารอคอยการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่

คลิปผู้ประสบภัยติดอยู่บนหลังคา โดยมีชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคอยไลฟ์อัปเดตสถานการณ์ และส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนบอกให้คุณตาอดทน และเกาะไว้แน่น ๆ กระทั่งเวลา 22.00 น. ที่ผ่านมา ชายคนนั้นยังเกาะอยู่ที่เดิม เพื่อรอความช่วยเหลือ

ต่อมามีเจ้าหน้าที่นำเรือเจ็ตสกีเข้าช่วยเหลือ แต่ถูกน้ำซัดจนเรือพลิกคว่ำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังวางแผนใหม่เพื่อหาทางช่วยเหลืออีกรอบ ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 01.45 น. ที่ผ่านมา เจ็ตสกีของกรมเจ้าท่า พยายามขี่ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือ แต่เข้าไม่ได้ เรือกู้ภัยก็เข้าไม่ได้ เนื่องจากน้ำแรงมาก เจ้าหน้าที่กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยชายคนดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีหญิงคนหนึ่งในพื้นที่ชุมชนไม้ลุงขน เป็นผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง กำลังรอคอยความช่วยเหลือ ออกไปไหนไม่ได้ แล้วแบตเตอรี่โทรศัพท์ใกล้หมดเต็มที เบื้องต้นมีรายงานว่าทหารกำลังพื้นที่ช่วยเหลือทางครอบครัว

ขณะที่ในตลาดสายลมจอย ย่านการค้าที่ติดกับสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ถูกน้ำเอ่อท่วมหนักตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 9 กันยายน กระทั่งเช้าวานนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำสายเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ทั้งหมดของตลาดสายลมจอย ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 2

ขณะที่สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ชาวบ้านทั้งชาวไทยและเมียนมา เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮเคลียร์ขยะที่ขวางทางน้ำ ป้องกันสะพานพัง

ทั้งนี้โซเชียลโพสต์คลิป อาจารย์เฉลิมชัย ขี่รถมาดูน้ำท่วมแม่สาย-ฝั่งเมียนมาท่าขี้เหล็ก อาจารย์บอกว่าน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี เลยทีเดียว

โดย อาจารย์เฉลิมชัย บอกว่า ผมเดินทางซิ่งจักรยานยนต์มาจากเชียงราย มาดูสถานการณ์น้ำท่วมแม่สาย พร้อมกับแพลนกล้องให้ดูสะพานที่ข้ามไปฝั่งเมียนมา รอบนี้ถือว่ามากสุดในรอบ 10 ปี โหดเหี้ยมที่สุด ร้านค้าจมหมด ไม่เหลืออะไรเลย ฝนตกมา 2-3 วันแล้ว น้ำไหลแรงจริง ๆ

เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เรียกประชุมกลางดึก ปรับแผนการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในที่พักอาศัยที่ถูกน้ำท่วม ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย

ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ น้ำท่วมหนักไม่แพ้กัน สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากน้ำท่วม และดินถน้ำล่มในพื้นที่ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย อย่างเช่นคลิปนี้เป็นภาพน้ำป่าหลากซัดรีสอร์ตแห่งหนึ่งจมหายไปกับกระแสน้ำ

ดินไหลทับบ้าน 7 หลัง เสียชีวิต 2 คน จ.เชียงใหม่
นอกจากนี้พื้นที่บ้านดอยแหลม ตำบลแม่อาย เกิดดินไหลลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ประมาณ 7 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน และสูญหาย 4 คน เจ้าหน้าที่ต้องหามร่างคนเจ็บและผู้เสียชีวิตลงจากดอยกันอย่างยากลำบาก เนื่องจากฝนตกทางลื่นและทางลาดชัน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทราบชื่อสูญหายแล้ว ประกอบด้วย นายธีรยุทธ สิริวรรณสถิต ผู้ใหญ่บ้าน, นางชดาพร, เด็กหญิง อายุ 5 เดือน และ เด็กชาย อายุ 4 ขวบ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่กำลังเร่งการค้นหา พร้อมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์ดินไหลและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ต่อไป

สทนช. เตือน 48 จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศ 48 จังหวัด เฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 13-18 กันยายน 2567

ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง น้ำท่วมฉับพลัน บริเวณที่ลุ่มต่ำและชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำรวมทั้งน้ำป่าไหลหลากบริเวณ

ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง ที่จังหวัดลพบุรี สระบุรี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก ที่จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ ที่จังหวัดชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตรัง และสตูล