จีนเตือนประเทศคู่ค้า อย่าให้ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ด้วยการเอาผลประโยชน์ของจีนเข้าแลก มิเช่นนั้นจะโดนจีนตอบโต้กลับอย่างเด็ดขาด
โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนออกมาเตือนประเทศคู่ค้าถึงเรื่องการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ว่า อย่าทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ ที่กระทบต่อผลประโยชน์ของจีน พร้อมเน้นย้ำว่า หากชาติใดก็ตามทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ โดยเอาผลประโยชน์ของจีนเข้าแลก จีนก็จะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาดและเท่าเทียมกับชาตินั้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ จีนยังกล่าวหาว่า สหรัฐฯ ใช้เรื่องกำแพงภาษีเป็นเครื่องมือบีบบังคับประเทศคู่ค้า ด้วยการอ้างถึง "ความเท่าเทียม" ซึ่งจีนยืนยันว่ามีความมุ่งมั่นและศักยภาพในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตน และพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายที่มีจุดยืนเดียวกัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังสำนักข่าว "บลูมเบิร์ก" (Bloomberg) ของสหรัฐฯ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมกดดันประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการขอลดหรือยกเว้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ให้ลดการค้ากับจีน ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการร้านอาหารสไตล์อเมริกัน ในกรุงปักกิ่ง ของจีน เริ่มจัดพิมพ์เมนูใหม่ ด้วยการนำเมนูเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ ออกจากเมนู ซึ่งผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทำให้สต๊อกเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ เหลือเสิร์ฟได้อีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ประกอบการจะหันไปสั่งซื้อเนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลียทดแทน ทั้งนี้ แม้ว่ามูลค่าการส่งออกเนื้อวัวจากสหรัฐฯ ไปยังจีน ซึ่งอยู่ที่เดือนละ 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 4,200 ล้านบาท ถือเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการค้าสินค้าขนาดมหึมา แต่การที่เนื้อวัวหายไปจากเมนูในกรุงปักกิ่ง ก็เป็นการส่งสัญญาณว่าสินค้าหลายพันรายการทั้งสองประเทศก็จะต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน