พ่อค้าแม่ค้าโอด ตลาดสดค้าขายซบเซา ต้องปิดร้านเร็ว หลังเกิดสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
(11 มิ.ย.68) บรรยากาศที่ตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นตลาดที่พ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อของไปขายต่อที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร และประชาชนทั่วไปมาจับจ่ายซื้อของไปอุปโภคบริโภค หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ และมีการปรับวันเวลาเปิด-ปิด จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู จากที่เปิดตลอด 7 วันตั้งแต่ 08.00 – 15.00 น. เหลือสัปดาห์ละ 3 วัน แค่วันละ 3 ชั่วโมง คือ 09.00 – 12.00 น. ทำให้มีผู้ที่รับของไปขายต่อ และประชาชนทั่วไปมาจับจ่ายซบเซาอย่างเห็นได้ชัด
จากปกติที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ก็ทำให้รายได้ลดลงเกือบครึ่ง ทำให้ช่วงนี้ร้านค้าและแผงขายของในตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านกรวด ต้องปิดเร็วขึ้นจากปกติจะปิด 2 – 3 ทุ่ม ช่วงนี้ปิดตั้งแต่ 6 โมงเย็น เพราะแทบไม่มีคนมาเดินตลาดเลย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งเจรจายุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย เพื่อให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายซื้อของมากขึ้น
นายวิทูร พ่อค้าขายของชำเบ็ดเตล็ดในตลาดสดเทศบาลตำบลบ้านกรวด บอกว่า ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายสินค้าก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะไม่มีคนซื้อขายไปขายต่อหรือไปอุปโภคบริโภคก็ลดลง ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้น การค้าขายก็เงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด จากปกติที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอยู่แล้ว ก็ยิ่งซบเซาลงไปอีก จึงอยากเรียกร้องให้ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ เจรจาพูดคุยหาทางออกที่ดีอย่างสันติวิธี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่และการค้าขายประชาชนทั้งสองฝั่ง
ด้าน นางพร แม่ค้าขายผัก บอกว่าทุกวันนี้ค้าขายเงียบมากเลย จากที่ก่อนหน้านี้ก็เงียบเหงาอยู่แล้วจากเศรษฐกิจไม่ดี และยิ่งพอมามีเหตุการณ์แนวชายแดนเกิดขึ้น ยิ่งทำให้เงียบเหงาลงไปอีกมาก ลูกค้าเดินทางมาจับจ่ายซื้อข้าวของน้อยลง คนไม่ค่อยมีมาเดินซื้อของ ถ้ามีมาเดินแค่เดินผ่านไปมานิดหน่อยก็หายไป ซึ่งทุกครั้งยังพอมีคนมาเดินซื้อข้าวของ มีวันคนมากคนน้อยบ้าง แต่เดี๋ยวนี้เงียบมากเลย
