จับเครือข่ายบัญชีม้าบริษัท เอี่ยวขบวนการฟอกเงินข้ามชาติ หลอกนักลงทุนชาวไทยเสียหายกว่า 100 ล้าน พบมีหมายจับติดตัว 6 หมายจับ

จับเครือข่ายบัญชีม้าบริษัท เอี่ยวขบวนการฟอกเงินข้ามชาติ หลอกนักลงทุนชาวไทยเสียหายกว่า 100 ล้าน พบมีหมายจับติดตัว 6 หมายจับ

View icon 207
วันที่ 9 ต.ค. 2568 | 12.11 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
1. หมายจับศาลอาญา ที่ 1808/2567 ลงวันที่ 25 เม.ย.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก

บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อคน หรือ เพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือ ยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนโดยประการที่รู้ หรือ ควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ความผิดอาญาอื่นใด, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, มีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรม หรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว อันเป็นความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ในฐานะบุคคล

2. หมายจับศาลอาญา ที่ 1813/2567 ลงวันที่ 25 เม.ย.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อคน หรือ เพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือ ยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนโดยประการที่รู้ หรือ ควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ความผิดอาญาอื่นใด, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรม หรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว อันเป็นความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ในฐานะนิติบุคคล (หุ้นส่วนผู้จัดการ)

3. ศาลอาญา ที่ 1372/2568 ลงวันที่ 26 ก.พ.2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "สบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน" ในฐานะบุคคล

4. ศาลอาญา ที่ 1373/2568 ลงวันที่ 26 ก.พ.2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "สบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน" ในฐานะนิติบุคคล(หุ้นส่วนผู้จัดการ)

5. ศาลอาญาธนบุรี ที่ 702/2568 ลงวันที่ 22 ก.ค.2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" ในฐานะบุคคล

6. ศาลจังหวัดสุโขทัย ที่ จ.280/2568 ลงวันที่ 25 ก.ย.2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเปิดหรือยินยอมเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมหรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด" ในฐานะนิติบุคคล(หุ้นส่วนผู้จัดการ)

โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณอาคารที่พักย่าน ถนนพระราม4 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับ ซึ่งจากการสืบสวนพบพฤติการณ์ในคดีของ นายวิษณุ มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล และนำไปใช้หลอกผู้เสียหายในการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นต่างประเทศ ผ่านแอปพลิเคชัน และมีส่วนร่วมองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ และฟอกเงินของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในกลุ่มคนร้ายกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งได้ติดตามจับกุมและทลายขบวนการเครือข่ายอาชญากรรมไปก่อนหน้านี้แล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายวิษณุ ปรากฏตัวอยู่บริเวณ บริเวณถนนพระราม 4 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปติดตามจับกุมตัว เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุดังกล่าวข้างต้นพบชายไทยมีตำหนิรูปพรรณตรงกับ นายวิษณุฯ อยู่บริเวณดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากนั้นจึงแสดงหมายจับศาลอาญา จำนวน 6 หมายจับ ให้นายวิษณุ ตรวจสอบ ซึ่งผู้ต้องหาให้การยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นจึงนำตัวผู้ถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป