เช้านี้ที่หมอชิต - เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวรายวันอีกครั้งกับ "นายอัจฉริยะ" ที่พยายามจะเปิดโปง และกระตุ้นให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง คราวนี้หยิบยกเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ ไปขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบตำรวจอีกแล้ว
อัจฉริยะ จี้สอบ ตร.เรียกเงินเว็บฯ พนัน
นอกจากเมื่อวันก่อนที่ไปยื่นหนังสือที่ ปปง. แล้วพูดถึงตำรวจหลายนาย ที่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวพันกับ "สส.กฤต" หรือ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคกล้าธรรม
เมื่อวานก็ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ "ผบ.ตร." ตรวจสอบ 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตำรวจเรียกรับเงิน และตบทรัพย์เว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยอ้างว่ามีตำรวจในหลายพื้นที่ หลายสังกัด กระทำความผิด
พร้อมบอกว่าหลักฐานรายชื่อนี้ ผ่านการตรวจสอบจาก DSI และกระทรวงดีอี พบว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่จริง จึงอยากให้ ผบ.ตร. ตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าเงินจำนวนมาก ตำรวจไม่กี่นาย ทำเรื่องนี้เองไม่น่าได้
โดยพฤติการณ์ตำรวจที่นายอัจฉริยะ กล่าวอ้าง คือ มีทั้งเรียกรับเงินเว็บพนัน น่าจะแลกกับการไม่จับกุม, ทำเอกสารอายัดบัญชีเว็บพนันปลอม แล้วตบทรัพย์เอาเงินในบัญชีครึ่งหนึ่ง หรือทำเรื่องอายัดบัญชีเว็บพนัน และตบทรัพย์เจ้าของบัญชีเพื่อปลดอายัด โดยเรียกเก็บบัญชีละ 100,000 บาท ซึ่งมีมากกว่า 300 คดี
CSI LA แฉขบวนการวิ่งเต้นตำแหน่ง ?
ไม่ใช่แค่นายอัจฉริยะที่แฉ แต่เพจฯ CSI LA ก็แฉด้วย เอาเอกสารที่เป็นข้อความแช็ตการสนทนามายืนยัน พร้อมบอกว่า นี่คือ แช็ตหลุด เครือข่ายลับของคุณหญิงกำมะลอ ที่ทำงานกันเป็นระบบ ถูกส่งต่อกันในวงราชการ ลักษณะคล้ายกันหมด เงินสดเป็นก้อน, กล่องของขวัญราคาแพง และบทสนทนาเรื่องตำแหน่ง-อาวุโส-ความเหมาะสมของข้าราชการระดับสูง
ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ มีบางภาพชื่อโพรไฟล์ ใช้คำว่า "Kittharath41" ซึ่งน่าจะหมายถึงการสวมรอยอ้างตัวเป็น "ผบ.ตร." นั่นเอง
ผบ.ตร. ลั่น ! "ผมไม่ใช่ลิเก"
ซึ่งเมื่อวานนี้ ผบ.ตร. ก็ออกมาพูดเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังเงียบมานานกว่า 2 สัปดาห์ ยอมรับว่าเพราะตำรวจทำงานใกล้ชิดกับกฎหมาย เลยมีคนที่ใช้โอกาสที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้แจกแจงรายละเอียด โจมตี จึงทำให้หลายคนเชื่อไปแบบนั้น ตัดสินไปแล้วว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ดี
และตนเองก็ไม่ใช่พระเอกลิเก ตนเองเป็นตำรวจ พ่อเป็นตำรวจ เล่นลิเกไม่เป็น การเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องใช้สมองทำงาน สั่งกำชับหน่วยปฏิบัติให้ทำในสิ่งที่ดี ที่ชอบ ที่ควร ทำตามกฎหมาย เพื่อดูแลประชาชน
ส่วนที่หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ว่าการให้ตำรวจออกมาปฏิญาณหน้าเสาธง เป็นการแก้ภาพลักษณ์ที่ไม่ถูกจุด ส่วนตัวกลับเห็นว่าการจะออกมาพูดแบบนี้ ไม่ได้ผิดอะไร และเรื่องนี้ก็ไม่มีใครสั่งการ ส่วนใครที่ทำไม่ดี ก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ
และมั่นใจว่าตำรวจนายไหน เรียกรับเงินจากการแต่งตั้งตำแหน่งหน้าที่ เป็นเรื่องที่โง่สุด ๆ เพราะกำชับมาตลอดว่าห้ามปฏิบัติ ใครทำจะมีโทษหนัก ต่อให้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ก็จะไม่มีการไว้หน้า โดยเฉพาะในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ที่ตนเคยดำรงตำแหน่งอยู่ ซึ่งมีหูตาอยู่ในพื้นที่เยอะ