เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องนี้พี่สาวจะไม่ทน ร้องทุกข์ขอความเห็นให้น้องชายแอบเข้าไปลักต้นกัญชาในบ้านเพื่อนบ้าน แต่ถูกจับได้และถูกทำร้ายสะบักสะบอม ต้องนอนรักษาตัวอยู่หลายวันก่อนจะสิ้นใจ โดยพี่สาวผู้เสียชีวิตบอกว่าหลังเกิดเรื่องเข้าไปแจ้งความให้ตำรวจตามจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี แต่ตำรวจกลับเมิน ไม่รับทำคดี เหตุการณ์นี้ที่จังหวัดอุดรธานี
หญิงอายุ 55 ปี ชาวบ้านอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยญาติ ๆ เข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องชายอายุ 49 ปี ชื่อนายคำดี เข้าไปลักต้นกัญชาที่เพื่อนบ้านปลูกไว้ แต่ถูกเพื่อนบ้านจับได้ก่อนลงมือทำร้าย ทุบตี และกระทืบซ้ำหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดช่วง 22.00 น. คืนวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายหลังน้องชายถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล นาน 3-4 วัน ก่อนแพทย์อนุญาตให้กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน แต่อาการของน้องมีแต่ทรุดลง นอนซม ไม่กินอาหาร กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม โดยฝ่ายคู่กรณีไม่เคยมาดูแลเยียวยาอะไร แถมยังมีหน้ามาบอกว่า ถ้าอยากได้เงิน ก็ไปฟ้องร้องเอา แถมยังขู่กลับว่าจะดำเนินคดีเรื่องที่น้องชายลักต้นกัญชาราคาเป็นแสนไปอีกด้วย
ญาติยืนยันว่าที่ผ่านมา น้องชายไม่เคยมีประวัติเจ็บป่วยมาก่อน จนมาเกิดเหตุมีคนเห็น น้องชายกระเสือกกระสนคลานออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ ในสภาพตามลำตัวมีร่องรอยฟกช้ำ จึงเชื่อว่านี่เป็นต้นเหตุให้น้องชายล้มป่วยและเสียชีวิต ซึ่งหลังจากทำพิธีฌาปนกิจน้องชายแล้ว ตนตัดสินใจไปที่ สภ.วังสามหมอ ตั้งใจไปแจ้งความ แต่ตำรวจไม่รับทำคดี อ้างว่า น้องของตนเป็นฝ่ายเข้าไปลักทรัพย์บ้านคนอื่นในยามวิกาล เจ้าของบ้านมีสิทธิป้องกันทรัพย์สิน ซึ่งตนคิดว่าไม่ถูกต้อง แม้น้องชายจะเป็นฝ่ายผิด แต่เจ้าของบ้านไม่ควรใช้ศาลเตี้ยพิพากษา ตัดสินชีวิตคนทั้งคน จึงออกมาร้องทุกข์ให้ตำรวจเชิญตัวเจ้าของบ้านที่ต้องสงสัยเป็นคนลงมือทำร้ายน้องชาย มาสอบสวนดำเนินคดีให้ได้
พลตำรวจตรี พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งทุกฝ่าย เบื้องต้นผู้ก่อเหตุจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา หรือไม่ก็กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
