วันนี้ (9 มิ.ย. 66) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ภคภณ ณ นคร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บางไทร ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน พื้นที่หมู่ 7 ต.สนามชัย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้ติดค้างอยูภายในบ้าน จึงประสานรถดับเพลิงจาก อบต.สนามชัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใกล้เคียงไปควบคุมเพลิง
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ปลูกอยู่หลังเดียว อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ประกอบกับเป็นบ้านไม้และมีลมกระโชกแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ พบบ้านถูกเผาเสียหายทั้งหลัง ตรวจสอบภายในบ้านบริเวณห้องนอน พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 คน ทราบชื่อ นางทองถุง อายุ 76 ปี ถูกไฟคลอกเสียชีวิตดำเป็นตอตะโกอยู่บนบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้เชือกกั้นห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่
ด้าน นายสำอาง อายุ 85 ปี เป็นเจ้าของบ้านและสามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้านั่งร้องไห้ถามหาแต่ภรรยาว่าอยู่ที่ไหน อยู่บนบ้านหรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปลอบ แต่ยังไม่ได้แจ้งให้นายสำอางทราบ จากการสอบถามนายสำอาง บอกว่า ตนเองอยู่บ้านหลังนี้พร้อมภรรยาและลูกสาว ช่วงเช้าลูกสาวออกไปทำงาน ส่วนตนเองได้พายเรือข้ามแม่น้ำไปธนาคาร จากนั้นมีคนโทรมาแจ้งว่าเพลิงไหม้บ้าน จึงรีบกลับมาดูก็แทบช็อก แต่ตอนนี้เป็นห่วงภรรยามากว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะภรรยาผ่าตัดขามาหลายปีแล้ว เดินไม่สะดวก ส่วนใหญ่จะอยู่แต่บนบ้าน ส่วนตนเองจะอยู่ข้างล่าง สำหรับทรัพย์สินที่อยู่บนบ้านก็เป็นทองรูปพรรณจำนวนมาก น้ำหนักกว่า 20 บาท เก็บเอาไว้ในไห
ขณะที่ นายจะเด็ด สาสาร อายุ 57 ปี กำนันตำบลสนามชัย กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเพลิงไหม้บ้านหลังเกิดเหตุ จึงได้รีบเดินทางมาตรวจสอบ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ไปแล้วประมาณครึ่งหลัง และมีเสียงคนร้องของความช่วยเหลืออยู่บนบ้าน ตนได้บุกขึ้นไปบนบ้านเพื่อจะช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในบ้าน แต่ระหว่างนั้นเพลิงลุกโหมอย่างรุนแรง จึงไม่สามารถฝ่าเพลิงเข้าไปช่วยเหลือออกมาได้ ทำให้เพลิงลุกไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง จนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ตนรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในบ้านได้ โดยก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายกระแสไฟฟ้าช็อต แล้วจากนั้นเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้กันพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ เพราะมีทรัพย์สินของเจ้าของบ้านอยู่ในกองเพลิง และจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
