ส.ป.ก. ร้อง ปปง.ตรวจสอบยึดทรัพย์ ส.ป.ก.โคราช

ส.ป.ก. ร้อง ปปง.ตรวจสอบยึดทรัพย์ ส.ป.ก.โคราช

View icon 97
วันที่ 11 มี.ค. 2567 | 14.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เลขา ส.ป.ก. ร้อง ปปง.ตรวจสอบยึดทรัพย์ ส.ป.ก.โคราช ทุจริตออกเอกสารสิทธิที่ดินรุกป่ามรดกโลกเขาใหญ่ ภายในอาทิตย์นี้ ตำรวจเตรียมขอศาลฯ ออกหมายจับ 2 ขรก.

วันนี้ (11 มี.ค.67) ที่สำนักงาน ปปง. นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เข้าพบ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กรณีตรวจสอบพบว่ามีเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือบุคคลบางคนหรือบางกลุ่มกระทำความผิดในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น การลักลอบขุดดินเพื่อนำออกจำหน่าย และการใช้ประโยชน์ในที่ดินผิดวัตถุประสงค์ ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อหารือแนวทางตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทุจริตทั้งหมด ทั้งนี้ปปง.และส.ป.ก.  หารือถึงการตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายธนดล ระบุ พบความผิดปกติของเจ้าหน้าที่รัฐที่ชัดเจนแล้ว 2 ราย และเจ้าหน้าที่เตรียมขอศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับเจ้าหน้าที่ตามความผิดในมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และข้อกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์นี้

อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ทางตำรวจ ปปป. ได้เข้าสอบปากคำพยาน และสอบปากคำผู้นำท้องถิ่นบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ตำรวจ ปปป. จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีก 7 ราย เพื่อดูว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน พบ 4-5 รายจากทั้ง 3 จุดที่ตนได้ลงพื้นที่ และทราบว่า ใน 4-5 รายนี้ พบบุคคลที่มีหน้าที่เสมือนเป็นนายทุนแล้ว 1 ราย มีชื่อเป็นผู้ถือครองที่ดิน 1 จุด โดยมีพฤติกรรมเหมือนเกษตรกร แต่แท้จริงไม่ใช่ แต่เป็นนายทุนที่มีกำลังทรัพย์สูงมาก ทั้งนี้ ทราบว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐาน และเบื้องต้นยังตรวจสอบไม่พบว่ามีนักการเมืองเข้ามาร่วมกระทำความผิด พร้อมยืนยันว่าทางกระทรวงเกษตรฯ มีความตั้งใจที่จะหาตัวนายทุนหรือไอ้โม่งตัวจริง รวมถึงผู้กระทำความผิดทุกรายมาดำเนินคดีให้ได้ แต่ขอเวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานอีกสักระยะ จะมีความชัดเจนแน่นอน

ด้าน นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า ภายหลังการหารือกับทางสำนักงาน ปปง. พบว่าคดีนี้เข้าข่ายความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ในเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตต่อหน้าที่ และ ความผิดเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า ซึ่ง ปปง. ก็จะมีการตั้งอนุกรรมการตรวจสอบคดีนี้ร่วมกับ 9 หน่วยงาน อาทิ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลที่ดินของรัฐ ร่วมเป็นคณะกรรมการ และจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทำงานด้วยกันโดยเร็วที่สุด ก่อนพิจารณาออกแนวทางมาบังคับใช้ต่อไป ยืนยันว่าจากนี้ไปเราจะบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็งและเข้มข้นมากขึ้น ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ที่ดิน ส.ป.ก. มีความชอบธรรมและถูกต้องที่สุด ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ให้และผู้รับการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก. ทาง รมว.เกษตรฯ มีนโยบายชัดเจนว่าจะต้องมีความผิดทั้งคู่ แต่เราก็จะให้ความเป็นธรรมโดยดูรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนว่าผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินไปนั้น นำไปประกอบเกษตรกรรมจริงหรือไม่

นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า วาระการขับเคลื่อนงานของทาง ส.ป.ก. เราก็จะต้องดูแลที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติ ให้เป็นไปตามหลักกฎหมายอย่างถูกต้อง และกำกับดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความชอบธรรมโปร่งใส เบื้องต้น ส.ป.ก. จะจัดทำรายชื่อผู้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. และติดประกาศทุกอำเภอ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันตรวจสอบว่ามีบุคคลใดอาจใช้ประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ รวมถึงจะจัดตั้งอนุกรรมการระดับอำเภอ โดยมีนายอำเภอเป็นประธาน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่

ส่วน นายวิทยา โฆษกสำนักงาน ปปง. แจงว่า การตั้งอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้นั้น ทาง ปปง. จะตรวจสอบว่าพื้นที่ใดเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อการค้าและเข้าข่ายความผิดบ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนความผิดมูลฐานตามกฎหมายการฟอกเงินนั้น เจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริต ก็มีความผิดชัดเจนทั้งทางอาญาและทรัพย์สิน แต่ในส่วนของการยึด ถือ ครอบครองที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายจะคุ้มครองพี่น้องเกษตรกร ที่เข้าไปทำประโยชน์เกษตรกรรมจริงๆ ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ต้องไปดูกันให้ชัดเจน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย