“อนุทิน” เมินกระแสข่าว “ชาดา” หลังกรมการปกครองบุกทลายบ่อนบางใหญ่ ย้ำมีแค่ “รมว.-อธิบดีฯ-ปลัดมท.” ที่รู้! ลั่นเกิดมาไม่เคยการันตีใคร เพราะไม่ใช่พ่อแม่ ขอบคุณ “สันธนะ”ช่วยส่งเสียง บอกคนทำงานต้องใช้ข้อมูล
วันนี้ (22 มี.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายสันธนะ ประยูรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เดินทางไปกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอเข้าพบนายชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังกรมการปกครองบุกจับบ่อนพนันขนาดใหญ่ บางใหญ่ โดยเชื่อมโยงว่านายชาดา รู้ว่ามีบ่อนดังกล่าวอยู่ ว่า ไม่ก้าวล่วงความเห็นของคนอื่น ทุกคนสามารถมีความคิดของตัวเองได้ สิ่งที่ตนยืนยันได้ก็คือ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครองเป็นผู้ดำเนินการ ไม่ได้อยู่ภายใต้ความกดดันใดๆทั้งสิ้น และไม่ได้สนใจเรื่องผลประโยชน์ หรือ อามิสสินจ้างใด ไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียง สนใจแต่เรื่องความสำเร็จของภารกิจเท่านั้น
ส่วนได้สอบถามนายชาดาหรือไม่ นายอนุทินระบุว่า ไม่ได้ถาม เรื่องนี้ต้องเป็นความลับ วันที่ไปจับรู้เพียง 3 คน คือ ตนเอง อธิบดีกรมการปกครอง และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่รู้ ซึ่งคนที่ไปจับอนุมัติการจับกุมได้คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นถ้าตนเที่ยวไปบอกคนนั้นคนนี้ภารกิจก็จะล้มเหลว
เมื่อถามว่าที่เขากล่าวหาว่านายชาดามีความคุ้นเคยแต่ไปเล่นเสียจึงให้บุกจับเพื่อหักหลัง นายอนุทิน กล่าวว่า นายชาดายังไม่เคยคุยกับตนในเรื่องนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล แต่นี่คือการปฏิบัติการเพื่อทำให้สังคมมีความเรียบร้อย
เมื่อถามย้ำว่าต้องสอบถามนายชาดาหรือไม่ในฐานะที่นายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า มันไม่เกี่ยวอะไรกับนายชาดา เป็นหน้างานของตนอธิบดีกรมการปกครอง และปลัดกระทรวงมหาดไทย เอาเป็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของพวกตน 3 คน ในการปฏิบัติการจัดระเบียบสังคม
ส่วนการที่นายสันธนะ มากล่าวหาในลักษณะว่าที่มหาดไทยไปจับเหมือนการดัดหลัง เพราะไปเล่นเสีย นายอนุทิน ส่ายหน้า ก่อนกล่าวว่าคนที่รู้จักตนดีจะรู้ว่าตนไม่เรื่องพวกนี้เลย ตนไม่ได้มีความรู้สึกกับเรื่องพวกนี้ “ไม่โกรธ ไม่แค้น ไม่เกลียดใคร ให้ใจหมองเศร้า”
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่านายสันธนะ ได้บุกไปถึงกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ได้อุทานว่า “เหรอ” ก่อนระบุว่า วันนี้ตนมีงาน อปพร. และที่รัฐสภา ส่วนมีอะไรอยากฝากถึงนายสันทนะหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มี ขอบพระคุณที่เป็นห่วง ช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ยิ่งคนส่งเสียงเยอะๆ ก็ยิ่งได้รับความสนใจและกระตือรือร้น ตำรวจก็กระตือรือร้น โดยพล.ต.อ.กิตติ์รัตน์ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งย้ายผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี สิ่งที่ทุกฝ่ายมีความกระตือรือร้น พอมีข่าวแบบนี้ก็มีข้อมูล เพราะทำงานก็ต้องใช้ข้อมูล
เมื่อถามว่านายสันธนะได้กล่าวว่าลูกพี่จับบ่อนลูกน้อง นายอนุทิน ได้หัวเราะ ก่อนระบุว่า ก็บอกแล้วว่าเราไม่ก้าวล่วงความคิดของใครทุกคนมีสิทธิ์คิดได้หมดด้วยความความอิสระเสรี แต่เวลาพวกตนทำงานก็ทำงานตามภารกิจ เมื่อนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลบอกผมว่าต้องทำสังคมให้เรียบร้อย ไม่ต้องกลัวน่าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน ตนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ทำงานกับปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครองในด้านนี้ ตนก็ทำโดยที่ไม่รู้สึกว่าจะเป็นใครต่อให้เป็นลูกน้องจริงๆก็จับ มันเสียหายตรงไหน ลองมีคนเปิดดูสิไม่ต้องเป็นลูกน้องถ้าเอาพี่เอาญาติ น้องเมีย น้องเขย พี่เขย ลูกสาวหรืออะไรจะจับให้ดู
เมื่อถามว่าสามารถการันตีแทนนายชาดาได้หรือไม่เรื่องเล่นการพนัน นายอนุทิน สวนกลับทันทีว่า “เกิดมาไม่เคยการันตีใครเพราะไม่ใช่พ่อแม่เขา” เมื่อถามย้ำว่าจะเรียกนายชาดามาสอบถามประเด็นที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ นายอนุทิน ยังคงย้ำว่า ไม่ถาม เพราะไม่ใช่ภารกิจของตน
ส่วนนายชาดา ควรแถลงข่าวหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า มันไม่เกี่ยวกับนายชาดา ส่วน เรื่องนี้จะทำให้นายชาดาเสียหายหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของของนายชาดากับคนที่ร้องเรียน นายชาดาก็ต้องใช้สิทธิ์ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเจ้าของบ่อนวันนั้นตนก็เห็นอยู่ในนั้น ถามกี่ทีเขาก็บอกว่าไม่ใช่เจ้าของบ่อน เขาเป็นนักเล่น และยังอธิบายให้ตนฟังอีกด้วยว่า เขาเป็นนักเล่น ที่ต้องบอกว่าเป็นนักเล่นเพราะว่านักเล่นโทษน้อย จากนั้นนายอนุทินได้หัวเราะ และกล่าวว่าตรงนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสืบสวนสอบสวนต่อไปด้วยพยานแวดล้อมว่าเขาเป็นนักเล่นหรือเจ้าของ
