เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำได้ 7 วัน ชายอายุ 43 ปี ยังไม่เข็ด กลับมาทำอาชีพเก่า โดนตำรวจจับพร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 เวลาประมาณ 19.40 น. ชุดจับกุมของจังหวัดสิงห์บุรี ประกอบด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.สิงห์บุรี, ชุดสืบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี และฝ่ายปกครองจังหวัดสิงห์บุรี ได้สืบทราบว่า จะมีพ่อค้ายาบ้ามาส่งยาให้ลูกค้าที่จังหวัดสิงห์บุรี จึงวางแผนพร้อมนำกำลังมาซุ่มดูและวางกำลังล้อมรอบที่บริเวณภายในวัดโพธิ์แก้วนพคุณ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จนถึงเวลา 20.30 น. ได้พบ นายกล้า อายุ 43 ปี ที่พักอยู่ที่ ถ.ริมทางรถไฟสายปากน้ำ คลองตัน กรุงเทพฯ โดยสารมากับรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง กรุงเทพฯ ซึ่งมี นายหยัด เป็นคนขับรถแท๊กซี่
จากนั้น นายกล้า ได้ลงมาจากรถแท็กซี่ โดยถือถุงหูหิ้ว พร้อมด้วยหมวกกันน๊อก เดินมาที่ศาลาตรงมุมมืดภายในวัด เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงได้ออกมาจากจุดซุ่มดูเข้าจับกุมและขอค้นตัวนายกล้า และถุงหูหิ้วที่ นายกล้า ถือมา พบยาบ้า จำนวน 3 มัด (6,000 เม็ด) และโทรศัพท์มือถือ จึงนำตัว นายกล้า และ นายหยัด คนขับรถแท็กซี่ มาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี
จากการสอบสวน นายกล้า ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำมาได้ 7 วันในข้อหาค้ายาเสพติด และได้กลับมาพักอาศัยที่แฟลตการเคหะร่มเกล้า และเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พ.ค.67 ที่ผ่านมาได้มี นายแจ๊ค ร่มเกล้า ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งรู้จักกันจากในเรือนจำ ได้มาหาตนที่แฟลต พร้อมกับนำยาบ้ามาขายให้ตน ตนไม่มีเงินจึงคิดค้าขายอาชีพเดิมโดยติดต่อหาลูกค้าที่อยู่ จ.สิงห์บุรี นายแจ๊ค คิดราคายาบ้ามัดละ 15,000 บาท (เม็ดละ 7.5 บาท) และวันนี้ตนนัดกับลูกค้าที่อยู่จังหวัดสิงห์บุรี ตกลงกันไว้ในราคามัดละ 16,000 บาท จำนวน 3 มัด
หลังจากได้ยาแล้วได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดไว้ที่ปากทางเข้าการเคหะฯ จากนั้นได้โบกรถแท็กซี่ตกลงว่าจ้างให้มาส่งที่ จ.สิงห์บุรี แต่รถแท็กซี่คันนั้นได้ปฏิเสธ และได้มาส่ง นายกล้า ที่ปั๊มเติมแก๊สบนถนนร่มเกล้า ก่อนเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้น นายกล้า ได้มาโบกรถแท็กซี่อีกคัน ซึ่งมี นายหยัด เป็นคนขับ และได้ติดต่อเหมารถให้ นายหยัด มาส่งในที่พื้นที่ จังหวัดสิงห์บุรี โดยบอกว่าจะไปหาญาติ เมื่อตกลงราคาเหมารถกันเรียบร้อยจึงออกเดินทาง เมื่อมาถึง ยังไม่ทันได้พบลูกค้าก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน
ด้าน นายหยัด คนขับรถแท็กซี่ ได้เล่าว่า ขณะขับรถเพื่อหาผู้โดยสารอยู่นั้น ก็เจอนายกล้า ถือถุงและหมวกกันน็อกโบกรถของตน และว่าจ้างเหมารถแบบไป-กลับ โดยบอกจะไปหาญาติที่ จ.สิงห์บุรี และตกลงราคาค่าจ้างโดยสารเรียบร้อยจึงเดินทาง เมื่อมาถึงจุดที่ นายกล้า บอก ตนจึงจอดรถรอ แล้วสักพักต้องตกใจเมื่อเห็นมีคนกลุ่มใหญ่กรูเข้ามาจับ นายกล้า และเปิดประตูรถตนและสอบถาม ตนจึงเพิ่งรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเพิ่งรู้ว่า นายกล้า ที่บอกว่าจะมาหาญาติที่แท้จ้างรถตนมาส่งยาบ้า โดยตนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของ นายกล้า ทั้งสิ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายกล้า ตรวจปัสสาวะและผลการตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของ นายกล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายกล้า พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว นายกล้าฯ พร้อมด้วยของกลางส่ง ร.ต.อ.สุชาติ ยอดดำเนิน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป