“แป้ง นาโหนด” ถึงไทยแล้ว ตำรวจรักษาความปลอดภัยราวไข่ในหิน ส่งตัวจากสนามบินไป สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
(4 มิ.ย.67) ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่อย่างเข้มข้นไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้อง หรือผู้สื่อข่าวเข้าพื้นที่หวงห้ามโดยเด็ดขาด เวลาประมาณ 15.00 น.นายกษิดิ์ชาติ ทองด้วง พี่ชายของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด พร้อมด้วยครอบครัวได้เดินทางมาเพื่อรอเยี่ยมและขอพบกับน้องชาย ที่จะเดินทางมาถึง ก่อนที่จะถูกควบคุมตัว
ส่วนการเดินทางของ นายเชาวลิต พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกระบุว่าเป็นฝ่ายอินเตอร์โพลอินโดนีเซีย ได้เช่าเหมาลำเครื่องบินแบบกัลป์สตรีม จากเอ็มเจ็ทประเทศไทย ทะเบียน HS-SKS ไปรับตัวนายเชาวลิต พร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายอินโดนีเซียมาร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานนครศศรีธรรมราช เมื่อเวลาประมาณ 17.40 น.จากนั้นเจ้าหน้าท่าได้คุมตัวนายเชาวลิตลงมาจากเครื่องบินอย่างรวดเร็ว เข้าสู่ขั้นตอนทางเอกสารและการเดินทางระหว่างประเทศ จากนั้นชุดSWAT ติดอาวุธจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และชุดราชเดช ได้คุมตัวนายเชาวลิตในสภาพสวมเสื้อเกราะ และสวมหมวกไหมพรมปกปิดใบหน้าขึ้นรถทรานฟอร์เมอร์มุ่งหน้ามายัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
โดยเมื่อมาถึง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางหลอกผู้สื่อข่าวเดิมจะเข้าทางประตูด้านหน้าและส่งตัวนายเชาวลิต เข้าสู่ตัวอาคารจากด้านข้าง ปรากฏว่าเมื่อเห็นผู้สื่อข่าวรออยู่เป็นจำนวนมาก ได้เปลี่ยนเส้นทางเข้าทางหลังแทนทำให้ผู้สื่อข่าวต่างผิดหวังที่จะได้ภาพ ขณะที่แพทย์และพยาบาล ได้เข้าตรวจร่างกายตามขั้นตอนแรกรับทันทีให้เป็นไปตามกฎหมายการควบคุมตัวของเจ้าพนักงาน โดยเปิดโอกาสให้พี่ชายเข้าพบในระหว่างนั้นด้วย ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และ สภ.เมืองพัทลุง สภ.ตะโหมด เข้าแจ้งข้อหากล่าวหา หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวน เมื่อเสร็จสิ้นจะเข้าสู่กระบวนการขออำนาจศาลนครศรีธรรมราช ฝากขัง โดยจะมีพนักงานสอบสวนพัทลุงเข้าอายัดตามขั้นตอนคดี
ต่อมาพลตำรวจโทสุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้แถลงการควบคุมตัวนายเชาวลิต
โดยมีสองส่วนคือการทำคดีหลบหนีในส่วนของนายแป้ง และยืนยันว่าพนักงานสอบสวนรับฟังแต่ไม่เชื่อคำให้การ นอกจากนั้นยังมีการตั้งคำถามจากผู้สื่อข่าวถึงการปกปิดใบหน้าของนายเชาวลิต รวมทั้งไม่ให้การเข้าถึงตัวของผู้สื่อข่าวเพื่อปกปิดอะไรบางอย่างหรือไม่ โดยพลตำรวจโทรสุรพงษ์ ระบุว่าให้เป็นไปตามข้อกฎหมายในสิทธิของผู้ต้องหา ส่วนนายเชาวลิตจะต้องการแถลงหรือไม่นั้นถือว่าไม่เหมาะสม และจะคาดคั้นให้ตนเองตอบนั้นตนไม่ตอบ
