โจรแสบตีเนียน เหมือนแขกร่วมงานศพ ก่อนมุดมุมมืด งัดตู้บริจาคในวิหาร ขณะก่อเหตุมีคนจับได้ คนร้ายทิ้งรถจยย.วิ่งหนีหายไปในความมืด
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Suvit Thongbai ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด ว่า ใครพบเห็นหรือรู้จักรบกวนแจ้งมาหน่อยครับ งัดตู้บริจาค เมื่อเวลา 19.08 น. วิ่งหนี ทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ไว้ # ผู้ชายอายุไม่เกิน30ปี # ใส่เสื้อแขนยาวสีดำมีหมวกกางเกงขายาว # ขโมยงัดตู้บริจาควัด ฝากถึงขโมยที่มางัดตู้บริจาควัดท่านได้ "ลืม" รถจักรยานยนต์ของท่านขอความกรุณามารับกลับไปด้วย #แอบรอโยมอยู่นะโยมไม่รู้บ้างเลย
โดยกล้องวงจรปิดจับภาพเวลาประมาณ 18.52 น.คนร้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อก สีขาว ขับรถจักรยานยนต์ แบบหญิง สี ดำ จะขับรถจักรยานยนต์เข้ามาแล้วขับวนไปมาในวัดเหมือนมางานช่วยงาน ก่อนลงจากรถเดินมาที่หน้าประตูวิหาร ทำทีดึงเก่าอี้มานั่งหน้าประตู ก่อนพยายามดันประตูดูว่าล็อกไหม ก่อนรีบเดินเข้ามาภายในวิหาร ซึ่งกล้องจับภาพเป็นชาย สวมเสื้อฮูดสีดำ กางเกงขายาว สีดำ รองเท้า สีขาว เข้ามาบริเวณตู้บริจาค ซึ่งตั้งคู่กัน 2 ตู้ คนร้ายยกที่ละตู้เข้าไปที่ซอกหลังองค์พระ เพื่องัดตู้หลบสายตาและแสงไฟ โดยทำทีละตู้ และจังหวะลูกศิษย์วัดมาเปิดไฟก็แอบหลังองค์พระ พอปิดไฟก็รีบเดินออกมาแต่ก็ถูกลูกศิษย์วัดที่ว่าผิดสังเกตุขับรถจักรยานยนต์วนมาดูอีกรอบและก็เจอตัวก่อนคนร้ายวิ่งหนีทิ้งรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางหน้าวัด ตามภาพกล้องวงจรปิดมา
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่ วัดศิวาราม ( ตาสิ้ว ) หมู่ที่ 5 ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับ พระมหาชาญชัย ฐิตวีริโย เจ้าอาวาสวัดศิวาราม พร้อมพาไปดูยังจุดเกิดเหตุภายในวิหารหลวงพ่อขัน ที่ตั้งอยู่ภายในวัดเป็นห้องกระจก พบว่ามีตู้บริจาค 2 ใบ ใบที่ 1 บำรุง ค่าน้ำ ค่าไฟ ใบที่ 2 บูชา ดอกไม้ธูปเทียน ถูกคนร้ายงัดได้รับความเสียหาย ยังพบว่าภายในตู้เหลือเงินเหรียญบางส่วนตกค้างอยู่ด้านใน
พระมหาชาญชัย ฐิตวีริโย เจ้าอาวาสวัดศิวาราม เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ วันที่ 22 มิถุนายน เวลาประมาณทุ่มกว่า ครั้งแรกพอดีลูกศิษย์วัดและพระในวัดเดินไปเดินมาเพื่อหยิบของอยู่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากที่วัดมีงานศพ จังหวะนั้นบริเวณดังกล่าวจะปิดไฟและมืด พอครั้งที่ 2 ลูกศิษย์วัดขี่รถ จยย.มาดู เนื่องจากผิดสังเกต จนพบคนร้ายเดินมาในความมืด พอถามว่ามาทำอะไร มางัดตู้ที่วัดหรือเปล่า ก็มีอาการลุกลี้ลุกลน ลูกศิษย์วัดจึงพยายามคว้าตัวไว้ แต่คนร้ายก็พยายามหนี จนทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ แล้ววิ่งหนีหายไปทางหน้าวัดในความมืด มูลค่าเงินในตู้ก็หลายพันบาท เพราะไม่ได้เปิดตั้งแต่วันวิสาขบูชา ก็ยากฝากเตือนวัดทุกวัด ก็ให้อย่าประมาทคนเข้าวัดเข้าวา เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเยอะต้องระวังฝากถึงทุกวันด้วย ตรวจดูประตูให้เรียบร้อย เพราะปัจจุบันติดกล้องก็ไม่กลัว
ด้าน นาย เลิศเดช อายุ 43 ปี ชาวบ้านและเป็นลูกศิษย์ในวัด คนที่เจอคนร้ายอย่างจังเล่าว่า ตอนนั้นสังเกตเห็นว่ามีคนมานั่งอยู่ ตอนแรกคิดว่าญาติคนที่มาร่วมงานในวัดเพราะที่วัดมีงานศพ ตอนนั้นเรายังไม่กลับ เราก็เหตุว่าผิดปกติ น่าสงสัย เพราะถ้าคนที่มาช่วยงานน่าจะนั่งอยู่ที่งาน ไม่ใช่มานั่งตรงนี้ จังหวะนั้นตนเองตอนแรกว่าจะกลับแล้ว แต่ก็ขับรถจักรยานยนต์วนมาอีกครั้งว่าจะเข้าห้องน้ำ เห็นรถจักรยานยนต์เขาจอดอยู่พอหันมาเห็นเขาวิ่งออกมาจากวิหาร ผมก็เลยขับรถจยย.ตามาตรงที่จอดรถ ฉุดกระฉากกันสักพัก แล้วเขาก็วิ่งหนีไป รูปร่างผอม ตัวเล็ก เห็นหน้าชัด ถ้าเห็นอีกครั้งจำได้ เพราะยังถามเขาเลยว่าไอ้น้องมาทำอะไร เขาบอกว่าน้ำมันหมด อย่างไรก็ตามฝากให้ทุกวัดระมัดระวัง เพราะมิจฉาชีพมาทุกรูปแบบ เจอประจำ ตกรถบ้าง น้ำมันหมดบ้าง พอสบโอกาสก็ลงมือลักทรัพย์
ทั้งนี้ พระมหาชาญชัย ฐิตวีริโย เจ้าอาวาสวัดศิวาราม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพอเกิดเหตุได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังน้อยมาตรวจสอบ จักรยานยนต์ที่คนร้ายทิ้งไว้ เป็นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ขช 7424 กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเป็นของกลางไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้าย คนดังกล่าวแล้ว เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อน ลักษณะแบบนี้ ที่ไหนอีก
