ผกก.สภ.หนองหิน แจงปมพ่อค้าไก่ปิ้งเมาแล้วขับ หลังถูกจับ ปอดฉีก ตาปูดบวม

ผกก.สภ.หนองหิน แจงปมพ่อค้าไก่ปิ้งเมาแล้วขับ หลังถูกจับ ปอดฉีก ตาปูดบวม

View icon 169
วันที่ 30 มิ.ย. 2567 | 15.55 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผกก.สภ.หนองหิน แจงปมพ่อค้าไก่ปิ้งเมาแล้วขับ หลังถูกจับ ปอดฉีก ตาปูดบวม  ยืนยัน ไม่มีการทำร้าย แต่พ่อค้าไก่ปิ้ง เมาหนักโวยวายอาละวาด ด่าทอ ทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งกัดนิ้ว ดึงเสื้อขาด ดึงนาฬิกาขาด พยายามหลบหนีตลอดเวลา จนวิ่งไปชนประตูบาดเจ็บ เผย บาดแผลบางจุดมีมาก่อนหน้านี้ เพราะพ่อค้าไก่ปิ้งทะเลาะกับเมีย แล้วบอกว่าเมียเอาไม้ฟาด

จากกรณีที่ พ่อค้าไก่ปิ้ง ปอดฉีก หน้าตาปูดบวม อาการสาหัส อ้างถูกตำรวจ 5 นาย รุมกระทืบที่โรงพัก หลังถูกจับเมาแล้วขับ อีกทั้งทองรูปพรรณ 1 บาท เงินสด 1,000 บาท หายไป ขณะตำรวจแจ้งญาติว่า ขณะเกิดเหตุตำรวจขอให้ผู้บาดเจ็บเป่าแอลกอฮอล์ แต่คนเจ็บขัดขืนต่อสู้ แล้ววิ่งหนีไปชนประตูได้รับบาดเจ็บเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พ่อค้าไก่ปิ้ง ปอดฉีกอาการสาหัส อ้างถูกตำรวจ 5 นาย รุมกระทืบที่โรงพัก

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.หนองหิน ติดตามความคืบหน้า พบ พ.ต.อ.เทอดศักดิ์ บุญโชติ ผกก.สภ.หนองหิน อยู่ระหว่างสอบถามตำรวจทั้ง 5 นาย ที่ถูกกล่าวหาว่ารุมทำร้าย นายสันติ พ่อค้าไก่ปิ้งจนปอดฉีกได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ส.ต.ท.สิทธิศักดิ์ อินศรีทะ ปฎิบัติหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ 1 ในผู้ถูกกล่าวหา ได้พาผู้สื่อข่าวไปยังห้องจราจรที่อยู่หน้า สภ.หนองหิน เล่าว่า วันดังกล่าว ขี่รถจยย.ตรวจพื้นที่กับคู่สาย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บขี่รถมาด้วยความเมา จึงเรียกตรวจพบว่าอยู่ในอาการที่เมา จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.หนองหิน แต่ผู้บาดเจ็บพยายามขัดขืน จึงเรียนรถกระบะสายตรวจมารับ โดยมี จนท.ตร.มาด้วยกัน 3 นาย มารับตัว เมื่อมาถึงโรงพัก ได้พาเข้าไปที่ห้องจราจร แต่ผู้บาดเจ็บมีอาการเมามาก ด่าทอเจ้าหน้าที่ และทำลายข้าวของในห้อง จึงได้ควบคุมตัวและใส่กุญแจมือ จากนั้นก็ไม่ยอมหยุดด่าตำรวจและกัดมือของ ส.ต.ท.สิทธิศักดิ์ อินศรีทะ จนบาดเจ็บ จากนั้นพยายามหนีออกจากห้องจนหัวไปฟาดกับโต๊ะ และวิ่งออกไปที่ประตู จนศีรษะกระแทกกับประตู โดยที่ จนท.ในห้องไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างไร

พ.ต.อ.เทอดศักดิ์ บุญโชติ ผกก.สภ.หนองหิน เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 26 มิถุนายน เวลาประมาณ 09.00 น. นายสันติได้มาเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลหนองหิน  ให้ประวัติกับพยาบาลว่า มีไม้ดีดฟาดใส่ศีรษะ ลำตัวด้านขวา และไหล่ขวา มีแผลที่คิ้วขวา มีแผลฉีกขาดยาวประมาณ 3 ซม. ลึก 0.3 ซม. และปวดบวมไหล่ขวา เจ้าหน้าที่พยาบาล จึงได้เย็บบริเวณคิ้ว สอบถามญาติว่าเหตุ ดังกล่าวไม่ใช่ไม้ดีดใส่ แต่เป็น นายสันติกับภรรยาทะเลาะกัน และได้ทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บมาเข้ารับการรักษาตัว รพ.หนองหิน

จนมาคืนวันที่ 28 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 22.00 น. สายตรวจออกตรวจในเขตพื้นที่เทศบาลบริเวณ หมู่ 4 ต.หนองหินพบชายนั่งอยู่บนรถกลางถนนจึงได้จอดรถ สอบถามว่าเป็นอะไรมายังไง ทำไมถึงจอดรถกลางถนน นายสันติพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่จับความได้ว่า มีปัญหากับภรรยาทะเลาะกันลงไม้ลงมือมีแผลบริเวณใบหน้าหลายแห่ง ชายดังกล่าวบอกว่าเมียเอาไม้ฟาดตัวเอง แล้วภรรยาได้หนีกลับบ้าน จึงกินเหล้าจนเมา แล้วออกมาจากบ้าน เพื่อจะไปตามเมีย สายตรวจจึงได้บอกเตือนว่าเมาแล้วกลับไปนอนพักที่บ้าน เมามากแล้วเดี่ยวขับรถไปชนคนอื่น สายตรวจจึงได้ขับรถผ่านไป

และวนกลับมา พบชายดังกล่าวขี่รถเข้าไปในซอยลึกกว่าเดิม สายตรวจจึงได้เข้าไปเรียกให้จอดรถ และได้บอกให้ลงรถและได้ทำการขออนุญาตตรวจค้น ชายดังกล่าวตระโกนโวยวายจนชาวบ้านละแวกนั้นออกมาดู สายตรวจได้สอบถามข้างบ้าน และผู้คนในซอยว่าปกติแกเป็นแบบนี้ไหม ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เวลาเมาชอบขับรถออกมาโวยวายตระโกนกวนทั้งซอย ข้างบ้านใกล้ๆ ชินกับพฤติการณ์ตอนแกกินเหล้าแล้ว สายตรวจจึงได้เชิญตัวไปที่โรงพัก เพื่อที่จะวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ชายดังกล่าวไม่ยินยอม พยายามขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ และร้องตระโกนโวยวาย สายตรวจจึงได้ ขอกำลังและรถยนต์นำตัวไปที่โรงพักเพื่อสงบสติอารมณ์ พอนำตัวไปถึงโรงพัก ชายดังกล่าวลงจากรถได้โวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่เสียงดัง จึงได้นำตัวเข้าห้องจราจร เพื่อจะได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ชายดังกล่าวไม่ยินยอม และได้พยายามจะหลบหนีตลอดเวลาที่มีโอกาส สายตรวจจึงได้ควบคุมตัว และให้นั่งบนเก้าอี้

ระหว่างนั้นชายดังกล่าวทำลายข้าวของภายในห้องจราจรสายตรวจ จึงทำการควบคุมตัวชายดังกล่าวขัดขืนต่อสู้ และได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่เสียหาย กัดนิ้ว ดึงเสื้อขาดดึงนาฬิกาขาด สายตรวจจึงได้ควบคุมตามระดับกำลังที่ชายดังกล่าวแสดงออกมา ระหว่างการควบคุมตัว ชายดังกล่าวได้ชกหมัดและได้ถีบเจ้าหน้าที่ และจะวิ่งออกจากห้องจราจร สายตรวจได้เข้าไปควบคุมตัวและได้เสียหลักล้มพุ่งเข้าไปบริเวณใต้โต๊ะ สายตรวจได้จับกดลงพื้น ชายดังกล่าวยังคงได้ชกหมัดและถีบขาเจ้าหน้าที่ สายตรวจจึงได้เพิ่มระดับกำลังตามที่ชายดังกล่าวได้แสดงออกมาในการควบคุมตัวเพื่อใส่เครื่องมือพัธนาการไว้ และนำตัวไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อสงบสติอารมณ์ ชายกล่าวได้พยายามลุกจากเก้าอี้และจะวิ่งออกจากห้องจราจร จนชนกับขอบประตู ทำให้มีแผลโนบริเวณใบหน้า สายตรวจจึงได้จับตัวให้นั่งลงกับพื้นและเอาน้ำให้ล้าง เช็ดหน้า ระหว่างการควบคุมตัวชายดังกล่าวพยายามจะหนี สายตรวจจึงได้ควบคุมกดลงกับพื้น ชายดังกล่าวขัดขืนต่อสู้ ทำให้บาดแผลบริเวณหน้าที่มีมาก่อนแล้วเปิดออก แต่เป็นแผลที่เกิดมาก่อนหน้านั้นแล้ว หรืออาจจะเกิดจากตอนที่ชายดังกล่าวล้มพุ่งเข้าไปใต้โต๊ะในระหว่างการควบคุมตัว

สายตรวจเห็นว่าใบหน้ามีบาดแผล และชายดังกล่าวพูดจาไม่รู้เรื่องไม่ได้สติ จึงได้ปรึกษา ร้อยเวร พงส. ว่าจะดำเนินการอย่างไร ร้อยเวรจึงได้สอบถามชายดังกล่าวและแนะนำให้ไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลก่อน ชายดังกล่าวยังคงพูดจาไม่รู้เรื่อง และไม่ยอมไปรับการรักษา ร้อยเวรสอบสวน จึงได้ให้พักผ่อนสงบสติอารมณ์อยู่ที่โรงพักประมาณ 1 ชั่วโมง ร้อยเวรสอบสวนสอบถามชายดังกล่าวหลังจากได้ให้พักสงบสติอารมณ์แล้ว เริ่มพูดคุยรู้เรื่อง จึงให้สายตรวจไปส่งชายดังกล่าวที่บ้าน และแจ้งให้ญาติของชายดังกล่าวทราบว่าก่อนที่จะนำมาส่งบ้านเกิดอะไรขึ้น และทางญาติบอกว่าพฤติกรรมหลังจากดื่มสุราเข้าไปจะเป็นแบบนี่ตลอด ทุกครั้งที่ดื่ม และสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว และจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อตรวจสอบว่า จนท.ผิดก็จะดำเนินการทันทีไม่มีการช่วยเหลือ

แพทย์หญิง นธิศรา ธิติศิริพงศ์ ผอ.รพ.หนองหิน เปิดเผยว่า เวรเช้าวันที่ 29 มิ.ย.67 ที่เจอคนไข้เดินมาที่โรงพยาบาลมีอาการเจ็บหน้าอก จึงทำการตรวจพบว่ามีลมรั่วในปอด จึงรีบทำการรักษาโดยการเจาะปอดจากนั้นรีบนำตัวส่ง รพ.เลย  ส่วนในรายละเอียดที่ได้รับแจ้งมาว่าคนไข้ มาครั้งหนึ่งแล้วกลางดึกคืนวันที่ 28 มิ.ย.67  ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน ถ้าคนไข้มาแล้วไม่ได้รับการรักษา อันดับแรกทางโรงพยาบาลต้องขอโทษก่อน ถือว่าเป็นการรักษาที่ล่าช้า จากนั้นจะนำเคสนี้ไปทบทวน และเย็นวันที่ 28 มิ.ย.67 ค่อนข้างยุง มีอุบัติเหตุฉุกเฉิน มีแพทย์คนเดียวและพยาบาลจำนวนไม่เยอะ และมีการส่งตัวคนไข้ฉุกเฉินไปโรงพยาบาลอุดรธานี ระดับการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินอาจมีความผิดพลาด เนื่องจากคนไข้เดินพูดได้อย่างปกติ ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้นว่าปกติ ทางโรงพยาบาลก็น้อมรับและขอโทษญาติคนไข้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง