หวิดเดือด รถเฉี่ยวกลางถนนไม่พอใจคู่กรณีคว้าเหล็กทุบรถ

หวิดเดือด รถเฉี่ยวกลางถนนไม่พอใจคู่กรณีคว้าเหล็กทุบรถ

View icon 76
วันที่ 3 ก.ค. 2567 | 08.37 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กระจกมองข้างเฉี่ยวผ้าใบคลุมหลังคา กลายเป็นคดีขึ้นโรงพัก ไม่พอใจคู่กรณีเล่นโทรศัพท์มือถือ คว้าเหล็กทุบฝากระโปรงรถ ตึกระจกมองข้าง หลังเกิดเหตุรู้ว่าผู้เสียหายเข้าแจ้งความ อยากจะขอโทษ ขอชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด แต่เหมือนเจ้าของรถจะไม่ยอม

ค่ำวานนี้ (2 ก.ค.67) นายอิทธิพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย อาชีพพนักงานขับรถ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง โดยระบุว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน โดยผู้เสียหายขับรถยนต์กระบะ ซึ่งเป็นบรรทุกโฟมได้เฉี่ยวชนกับรถสไลด์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ภายในบริเวณซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อมาได้มีปากเสียงกัน โดยคู่กรณีซึ่งเป็นคนขับรถสไลด์ ได้ลงจากรถพร้อมกับถือเหล็กขันน็อต พยายามเข้ามาเปิดประตูรถ แล้วใช้เหล็กตีลงที่ฝากระโปรงรถด้านหน้า 1 ครั้ง และได้ขับรถตามมาถึงหน้าอู่รถ แล้วนำเหล็กขันน็อตออกมาตีไปที่กระจกรถของผู้เสียหายทั้ง 2 ข้างจนแตก และหลุดออกไป ต่อจากนั้นก็มีพรรคพวกของฝ่ายคู่กรณีกว่า 10 คน ได้กรูกันออกมาล้อมรถผู้เสียหายไว้ พยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่สามารถเปิดได้ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป
     
นายอิทธิพล เปิดเผยว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ตนขับมาเลนซ้าย ส่วนคู่กรณีขับมาเลนขวา เป็นลักษณะขับตีคู่กันมา แต่โทรศัพทฺมือถือของตนดังขึ้น จึงก้มลงไปมอง จังหวะนั้นรถของคู่กรณีได้เปลี่ยนเลนจะเข้ามาเลนซ้าย กระจกมองข้างฝั่งซ้ายของคู่กรณีเฉี่ยวกับบริเวณผ้าใบคลุมหลังคารถของตนแค่นิดเดียวเท่านั้น ตนและคู่กรณีจึงจอดรถ แต่ตนไม่ได้ลงจากรถเพราะกลัว ที่เห็นคู่กรณีเดินถือเหล็กลงมาด้วย แล้วพยายามจะเปิดประตูรถให้ตนลงไปเจรจา ตนได้แค่ยกมือขอโทษเขาไป แต่เขาเหมือนจะไม่พอใจ ใช้เหล็กตีไปที่ฝากระโปรงหน้ารถจนเป็นรอยบุบ จากนั้นก็ขับรถออกไปโดยเป็นการขับคร่อมเลนเพื่อไม่ให้ตนแซง แล้วไปจอดที่หน้าอู่รถของคู่กรณี แล้วก็เดินลงมาพร้อมกับท่อเหล็กอันเดิมและตีกระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวาจนแตกและหลุดออกไป ตอนนั้นขับรถมาคนเดียวก็รู้สึกกลัวมาก ไม่กล้าลงจากรถพยายามขอโทษเขาอยู่ในรถ แต่เขาคงไม่ได้ยิน หากตนลงไปหรือเขาเปิดประตูรถได้ ก็ไม่อยากจะคิดว่าจะโดนอะไรบ้าง

ด้าน นายสมชาย (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าโมโหเพราะหลังเกิดการเฉี่ยวชนคู่กรณีคล้ายจะไม่ยอมหยุดรถ  จึงหยิบเอาเหล็กขันน็อตที่อยู่ในรถลงไปด้วย พยายามจะไปเรียกให้เขาลงจากรถเพื่อมาคุยกัน แต่เขาไม่ยอมลง ตนจึงใช้เหล็กตีไปที่ฝากระโปรงรถ 1 ครั้ง และเดินกลับขึ้นรถและขับออกไป ไปจอดอีกครั้งที่หน้าอู่ซ่อมรถซึ่งเป็นบริษัทที่ตนทำงานอยู่ แล้วจอดขวางไม่ให้คู่กรณีขับออกไปได้ จากนั้นจึงลงจากรถและหยิบเหล็กขันน็อตอันเดิมลงไปตีที่ประจกฝั่งซ้ายจนหลุดและเดินไปตีกระจกฝั่งขวาจนแตก ทำให้เพื่อนที่อยู่ที่อู่ซ่อมรถวิ่งกันออกมาล้อมรถไว้ แต่ไม่ได้ทำร้ายคู่กรณี

“เมื่อทราบว่าคู่กรณีมาแจ้งความจึงเดินทางมาที่โรงพักด้วย และยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ และตอนเกิดเหตุอยากรีบกลับบ้าน และมีงานต้องไปทำต่อ ตอนนี้อยากจะขอโทษและพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด แต่เหมือนทางเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของรถจะไม่ยอม”